เมื่อวานซืน ผมตื่นแต่เช้าตรู่ เดินทางไปยังโรงเรียนวัดตลิ่งชัน เพื่อเข้ารับการเกณฑ์ทหาร
ผมไม่ได้เรียน ร.ด. เพราะตอน ม.ปลาย ไปเรียนที่สิงคโปร์ ส่วนตอนเรียนมหาลัยก็ไม่อยากเสียเวลาเรียน ร.ด. ทุกอาทิตย์
ผลก็คือ ผมต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร
ที่ผ่านมา ช่วงที่เรียนมหาลัย ผมก็ผ่อนผันมาเรื่อยๆ จนปีนี้เรียนจบแล้ว หมดสิทธิ์ผ่อนผัน เลยเข้ารับการตรวจเลือก
.........
ผมไปถึงที่โรงเรียนวัดตลิ่งชันตอนเจ็ดโมงเช้าตามเวลาที่ระบุในหมายเรียก
คนเยอะมากๆ เลยครับ (ผมรู้ที่หลังว่ามีคนมาเข้ารับการเกณฑ์ทหารที่เขตนี้ถึง 1,044 คน) แต่ละคนก็มีพ่อแม่พี่น้องยกขบวนกันมาให้กำลังใจกัน ทำให้บรรยากาศคึกคักมาก
หลังจากเหล่าทหารกองเกินเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเจ็ดโมงเสร็จ นายทหารผู้รับผิดชอบการตรวจเลือกก็ชี้แจงขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ให้ฟัง พร้อมทั้งย้ำว่า เจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด เพราะปีที่แล้วกว่าการเกณฑ์ทหารจะเสร็จสิ้นก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่า ปีนี้หวังว่าจะเร็วขึ้น (ฟังแล้วท้อเลยครับ)
สรุปง่ายๆ คือ ทหารกองเกินทุกคนต้องรายงานตัวเพื่อตรวจสุขภาพ วัดรอบอก และวัดส่วนสูง โดยทางเจ้าหน้าที่จะเรียกมารายงานตัวทีละแขวง
ขั้นตอนเป็นไปอย่างเชี่องช้า... ผมนั่งรอๆๆ จนประมาณสิบโมงก็ถึงคราวของแขวงของผม
รายงานตัว... แสดงเอกสารให้เจ้าหน้าที่... เข้าไปให้แพทย์ทหารตรวจสุขภาพ (จริงๆคือเรายื่นแขนตรง สบตาหมอ ให้หมอฟังหัวใจประมาณสามวินาที) แล้วก็วัดส่วนสูง วัดรอบอก...
ผมเสร็จสิ้นกระบวนการนี้ตอนสิบเอ็ดโมงตรง เจ้าหน้าที่บอกว่าให้รออยู่ในบริเวณโรงเรียน ต้องรอให้ทหารทกองเกินทุกคนจากทุกแขวงผ่านกระบวนการข้างต้นให้หมดก่อน แล้วจะเรียกมารวมกัน...
ผมคาดคะเนเอาว่า ทุกคนน่าจะรายงานตัวและตรวจวัดต่างๆ เสร็จตอน 4-5 โมงเย็น...
ผมก็หาอะไรกินแถวนั้น มีแม่ค้ารถเข็นมาขายอาหารและเครื่องดื่มมากมาย (วันนั้นขายดีมากๆ)...
.........
นั่งรอ ยืนรอ เดินรอ งีบหลับรอ...
อยากบอกว่าตอนรอนี่ไม่ใช่สบายนะครับ อากาศก็ร้อน เก้าอี้ภายในเต๊นท์ก็มีเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับจำนวนคน ทำให้แต่ละคนต้องหาที่นั่งของตนเอาเอง ตามฟุตบาท ตามขอบรั้ว ตามม้านั่ง และตามพื้นลานสนามบาสที่พอจะมีเงาต้นไม้กันแดดกันร้อน...
สามโมงก็แล้ว สี่โมงก็แล้ว ห้าโมงก็แล้ว หกโมงก็แล้ว... ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จ...
ไปกินข้าวเย็นที่แม่ค้าเจ้าเดิมในซอยข้างๆ โรงเรียน (แต่กับข้าวเปลี่ยนไปแล้วนะ)
ระหว่างกินอยู่ดีๆ ปรากฎว่ามีคนวิ่งตื่นตระหนกออกมาจากท้ายซอย มองไปก็เห็นวัยรุ่น 3-4 คนกำลังรุบอัดวัยรุ่นอีกคนนึงอยู่
ผมกับพ่อรีบลุกออกจากโต๊ะออกมาที่ปากซอย เพราะวัยรุ่นตีกันนี่น่ากลัว เกิดพวกนั้นมีมีดมีปืน แล้วเราดวงซวยอาจโดนลูกหลงเอาได้ง่ายๆ
ระหว่างนั้น มีวัยรุ่นอีก 2-3 คนวิ่งเข้ามาสมทบ ผมเห็นคนนึงคว้าขวดน้ำปลาจากร้านอาหารเตรียมเอาไปเป็นอาวุธ...
ดีว่าเรื่องไม่ได้บานปลาย ทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้...
ผมกับพ่อกลับไปกินข้าวต่อ คุยกับแม่ค้าได้ความว่า มีตีกันทุกปี ปีก่อนมีมีดมีดาบด้วย... ฟังแล้วรู้สึกท้อแท้กับสังคมไทยจริงๆ
ทุ่มนึงผ่านไป สองทุ่ม สามทุ่ม สี่ทุ่ม... ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จ...
ผมและคนอีกมากมายก็ได้แต่นั่งรอยืนรอต่อไปโดยปริยาย...
.........
เกือบเที่ยงคืน...
ทหารกองเกินทุกคนผ่านขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่เลยเรียกทุกคนไปนั่งรวมกันที่ลานสนามบาส...
แล้วก็ปล่อยให้เรารอไปอีก โดยบอกว่ากำลังอยู่ระหว่างทำบัญชีอยู่...
เกือบตีหนึ่ง...
นายทหารก็ออกมาประกาศว่า สรุปแล้ว วันนี้มีผู้มาเข้ารับการเกณฑ์ทหาร 1,044 คน มีต้องการเป็นทหารโดยสมัครใจ 100 กว่าคน ซึ่งมากกว่าจำนวนที่เขตนี้รับคือ 70 คน...
ทุกคนปรบมือเฮ... เพราะนั่นแปลว่า 1,044 คนผ่านการเกณฑ์ทหารไปโดยอัตโนมัติ...
กว่าจะรอรับใบ ส.ด.43 เสร็จก็ปาเข้าไปตีหนึ่ง... กลับถึงบ้านเกือบตีสอง... รุ่งขึ้นตื่นเช้าไปทำงาน...
.........
ถามว่าผมได้ประสบการณ์อะไรบ้างจากการเกณฑ์ทหารครั้งนี้
เรื่องแรกเลย ได้เห็นและเข้าใจกระบวนการเกณฑ์ทหาร เข้าใจว่ากระบวนการ "กิน" ของทหารเป็นยังไง เข้าใจว่าทำไมเรื่องเกณฑ์ทหารถึงเป็นแหล่งรายได้สำคัญแหล่งหนึ่งของเหล่าทหาร...
อีกเรื่องคือ ได้เห็นความเชื่องช้าไร้ประสิทธิภาพของกระบวนการเกณฑ์ทหาร... ดูเหมือนว่าทหารจะไม่ได้สนใจทหารกองเกินที่มาเกณฑ์ทหารและญาติๆเลย... ไม่สนใจที่จะพัฒนาระบบบริหารจัดการการเกณฑ์ทหารเลย ทั้งๆที่ทำมาทุกปีเป็นงาน routine แท้ๆ...
มาเกณฑ์ทหารแล้ว ผมคิดอยากศึกษาวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยใช้กรอบเศรษฐศาสตร์การเมือง/สถาบัน ดูว่าทำไมและเพราะอะไรกันแน่ ระบบการเกณฑ์ทหารมันถึงเป็นอยู่อย่างที่มันเป็น แล้วที่มันเป็นนี่มัน optimal หรือเปล่าสำหรับประเทศไทย... ใครคือคนที่ได้ประโยชน์จากระบบ และมันจะมีวิธีใดไหมที่จะทำให้ระบบมันดีและมีประสิทธิภาพมากกว่านี้...
เห็นการเกณฑ์ทหารแล้ว ผมอดห่วงอนาคตประเทศชาติไม่ได้...
อยากจะตะโกนดังๆออกไปว่า ถ้างานง่ายๆแค่นี้ยังบริหารจัดการไม่ได้ ก็อย่าไปยุ่งเรื่องบริหารจัดการประเทศเหมือนทุกวันนี้เลยเถอะคร้าบ... คุณทหาร...
Wednesday, April 04, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
2 comments:
เห็นด้วยครับ พวกทหาร เหี้ยจริงๆ
ที่พูดมาทั้งหมดนั่น สถานการณ์เหมือน ที่ผมไปคัดเลือกเดะๆเลย รอๆๆๆๆ แล้วก็รอ กินๆๆๆ แล้วก็กิน แต่ผมอยู่ต่างจังหวัด
Post a Comment